1. ใครคือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ใครคือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล คือ บุคคล หรือนิติบุคคล มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์
บริษัท คือ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและหรือกฏระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
2. ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราทำการเก็บรวบรวมและประมวลผล มีดังนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากท่านตามใบคำขอ แบบฟอร์ม หรือเอกสารอื่นใด เมื่อท่านขอรับบริการหรือผลิตภัณฑ์จากบริษัทรวมถึงช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หรือเอกสารอื่นที่สามารถระบุตัวตน ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน หรือที่อยู่ตามที่ท่านแจ้งไว้ เพศ หมายเลขโทรศัพท์ หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) วันเดือนปีเกิด ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน หรือสถานภาพทางการสมรส เป็นต้น
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น แหล่งที่มาของรายได้ เลขที่บัตรเครดิต หรือเลขที่บัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระค่าเบี้ยประกันภัย ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอากร เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เช่น ตำแหน่งงาน สถานที่ทำงาน ประวัติการทำงาน ชื่อและที่อยู่ของนายจ้าง เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมาย เช่น สถานะเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือกฎหมายป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง หรือกฎหมายล้มละลาย กฎหมายว่าด้วยการหลีกเลี่ยงภาษีของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA)
- ข้อมูลการทำธุรกรรมเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย เช่น ประวัติการชำระเบี้ยประกันภัย การกู้ยืม การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การใช้สิทธิหรือบริการอื่นๆของเรา รวมถึงบันทึกการสนทนาเมื่อท่านติดต่อกับบริษัทในทุกช่องทาง
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เช่น ข้อมูลการแพทย์และสุขภาพ หรือความพิการ เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ ข้อมูลพันธุกรรม ชีวภาพ หรือพฤติกรรมทางเพศ ข้อมูลความเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลการรักษาทางการแพทย์ ข้อมูลการเรียกร้องสินไหมทดแทน และข้อมูลที่สำคัญอื่นๆที่ได้รับจากบุคคลที่สาม
- ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ให้บริการอื่นที่บริษัทได้รับจากกิจกรรมการท่องเว็บออนไลน์ หรือข้อมูลสำหรับสมัครใช้บริการ หรือใช้บริการในเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆของเรา เช่น My Allianz หรือ Healthy Living เป็นต้น
- หมายเลขไอพี (IP Address) ประเภทของซอฟต์แวร์เบราว์เซอร์ (Browser) ที่ใช้ และวัน เวลา และระยะเวลาที่ท่านใช้งาน รวมถึงข้อมูลการใช้ เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเราซึ่งมีการบันทึกรายละเอียดข้อมูลดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
ในกรณีที่ท่านมีความสนใจในผลิตภัณฑ์ประกันภัยหรือขอรับบริการของเรา ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จำเป็น รวมถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เพื่อให้บริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือให้บริการ หรือพิจารณารับประกันภัย หรือปฏิบัติตามสัญญาประกันภัย หรือดำเนินการตามคำร้องอื่นใดของท่านได้ หากท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านที่จำเป็น ครบถ้วน เพียงพอสำหรับการดำเนินการของบริษัท บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาประกันภัย หรือปฏิเสธที่จะดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่เรา (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้เอาประกันภัย สมาชิกในครอบครัว ผู้ชำระเบี้ยประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ เป็นต้น) ท่านรับทราบและยืนยันว่าท่านได้กระทำการในนามของบุคคลนั้นเพื่อยินยอมให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และได้ดำเนินการให้บุคคลนั้นรับทราบคำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว
3. เราได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร และใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอย่างไร
เราได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร และใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอย่างไร
3.1 บริษัทได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดย:
- บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง ตามใบคำขอเอาประกันภัยที่ท่านสมัครขอเอาประกันภัยไว้กับบริษัท หรือตามคำร้องต่างๆ ที่ท่านได้ยื่นไว้กับบริษัท หรือจากการติดต่อต่างๆของท่านในทุกช่องทางการติดต่อของบริษัท หรือจากการเข้าถึงเว็บไซต์หรือสมัครใช้หรือใช้บริการแอปพลิเคชันต่างๆของบริษัท หรือการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาดกับบริษัท
- บริษัทยังอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จากบุคคลที่สาม หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ เช่น บริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่มธุรกิจ พันธมิตรทางธุรกิจ ที่ปรึกษาทางการเงิน ตัวแทนประกันภัย หรือ นายหน้าประกันภัย ธนาคาร บริษัทประกันภัยอื่น แพทย์ที่ทำการรักษา สถานพยาบาล สมาคมวิชาชีพ เช่น สมาคมประกันชีวิต หรือสมาคมประกันวินาศภัย เป็นต้น หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายอื่นๆ นายจ้างหรือที่ปรึกษาทางการเงินของนายจ้าง ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น
3.2 บริษัทจะประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อดำเนินการตามความประสงค์ของท่าน หรือเพื่อดำเนินการตามหน้าที่ ความรับผิดชอบ หรือตามสัญญาประกันภัยระหว่างท่านกับบริษัทฯ เช่น การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การเสนอราคา การพิจารณารับประกันภัย และการจัดการในการบริหารกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน รวมทั้ง การดำเนินการตามคำขอ หรือคำเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของท่าน และการบริการออนไลน์ของเราในขณะนี้หรือในอนาคต รวมถึงการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน เช่น การเรียกเก็บเบี้ยประกันภัย หรือแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับกรมธรรม์ หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด เงื่อนไข นโยบายของบริษัท เป็นต้น
- เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การติดต่อเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือการบริการ การเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงการแจ้ง หรือประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ข้อมูลทางการตลาด เช่น การให้สิทธิพิเศษ กิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ ที่บริษัทได้จัดขึ้นเป็นครั้งคราว
หากท่านประสงค์ไม่รับการติดต่อเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด ให้ท่านแจ้งความประสงค์ดังกล่าวได้ตลอดเวลาโดยการติดต่อมายังบริษัทตามช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในคำชี้แจงฉบับนี้
- เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ หรือกฎหมายใดๆ ของหน่วยงานที่มีอำนาจ เช่น กฏหมายที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายล้างสูง กฎหมายล้มละลาย หรือกฎหมายว่าด้วยการหลีกเลี่ยงภาษีของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) กฏหมายเกี่ยวกับหลักทรัพย์หรือตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่ง หรือให้ความร่วมมือในการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายอื่นใด ที่ได้มีการร้องขอเป็นครั้งคราว หรือเพื่อให้เป็นไปตามการรายงานของทางราชการ หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อการสืบสวนหรือป้องกันและการตรวจสอบการทุจริต การฉ้อโกง หรืออาชญากรรมทางการเงินเพื่อประโยชน์ของบริษัท หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การตรวจสอบการทำธุรกรรมในกรณีที่สงสัยว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น การดำเนินคดี หรือการตรวจสอบข้อมูลประจำตัวเพื่อป้องกันการฟอกเงินและการตรวจสอบการคว่ำบาตร และระบุบุคคลที่สัมพันธ์ทางการเมืองซึ่งบริษัทจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ในการนี้ บริษัทอาจจำต้องขอปฏิเสธในการให้บริการตามที่ท่านร้องขอหรือหยุดการให้บริการแก่ท่าน รวมถึงการรายงานการกระทำความผิด หรือการทุจริตไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย
- เพื่อการวิเคราะห์และจัดทำสถิติเพื่อประโยชน์ของบริษัท เช่น การทำวิจัยทางการตลาด หรือการวิเคราะห์ข้อมูล การทำวิจัยเชิงคณิตศาสตร์ประกันภัย การกำหนดราคา รวมทั้งการพิจารณารับประกันของบริษัทและการชำระค่าสินไหมทดแทน หรือเพื่อกำหนดกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการบริการ หรือเพื่อการสร้างโปรไฟล์ของท่านเพื่อให้บริษัทสามารถทำการพิจารณาความเหมาะสมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงการวิเคราะห์การใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อการปรับปรุง หรือแก้ไขการใช้งานเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน หรือสื่อสังคมออนไลน์ให้เป็นไปตามลักษณะการใช้งานของท่าน
- เพื่อประโยชน์ของบริษัทในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม ซึ่งรวมถึงการทดสอบระบบของบริษัท การจัดการฐานะทางการเงิน ความสามารถทางธุรกิจ การวางแผน การสื่อสาร การกำกับดูแลกิจการและการตรวจสอบภายใน การปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึง การบริหารจัดการข้อมูล การเก็บบันทึก ทำสำเนา หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายตามที่ได้รับความยินยอม เว้นแต่เป็นการประมวลข้อมูลที่มีความอ่อนไหวที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมตามกฎหมาย
ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หรือไม่ได้รับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาประกันภัยหรือตามกฎหมาย บริษัทอาจจะปฏิเสธการดำเนินการได้
- เพื่อเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือการดำเนินการตามคำขอ หรือเพื่อผลประโยชน์ของบริษัท หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เป็นการเฉพาะตามที่ได้รับความยินยอม (ในกรณีที่ต้องขอความยินยอม) กับบริษัทในกลุ่ม บุคคลที่สาม หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจ หรือบุคคลที่กระทำการในนามบริษัทไม่ว่าในหรือนอกประเทศไทย
- การเสนอราคา การคำนวณเบี้ยประกันภัย การพิจารณารับประกันภัย บริษัทอาจจะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประวัติสุขภาพ ข้อมูลไลฟ์สไตล์ของท่าน อาทิเช่น อาชีพ และกิจกรรมเสี่ยงภัยต่างๆ ที่ท่านดำเนินการ ปัจจัยเหล่านี้จะได้รับการประเมินตามหลักเกณฑ์ของการกำหนดเบี้ยประกันภัยและหลักการพิจารณารับประกันภัยของบริษัท ซึ่งรวมถึง อัตรามรณะ การใช้งาน, เจ็บป่วย, การบาดเจ็บ และ ความเสี่ยงภัยทางประชากร ประวัติการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของท่านตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ท่านถืออยู่หรือเคยถืออยู่ บริษัทอาจใช้ข้อมูลในกิจกรรมเหล่านี้เพื่อกำหนดเบี้ยประกันภัยของผลิตภัณฑ์ที่ท่านต้องการ หรือเพื่อพิจารณาว่าบริษัทฯ ควรจะรับประกันภัยตามที่ท่านร้องขอหรือไม่ อย่างไร
- การให้คำแนะนำทางการเงิน บริษัทอาจดำเนินการประเมินผลทางคอมพิวเตอร์กับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินของท่านเพื่อให้คำแนะนำทางการเงินแก่ท่านอย่างถูกต้องและเหมาะสม กิจกรรมเหล่านี้จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับการประมวลผลอัตโนมัติแต่เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ บริษัทอาจจะตรวจสอบผลลัพธ์ดังกล่าวเพื่อทำให้แน่ใจว่าบริษัทได้ให้คำแนะนำทางการเงินที่เหมาะสมตามข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัท
- เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายของท่าน หรือสุขภาพของบุคคล หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัท
- เพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่ได้รับความยินยอมไว้เป็นครั้งคราว เว้นแต่วัตถุประสงค์นั้นบริษัทสามารถประมวลผลได้โดยชอบด้วยกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อท่านใช้ผลิตภัณฑ์หรือรับบริการจากเรา ใบคำขอเอาประกันภัยที่ท่านกรอกหรือสัญญาประกันภัยที่ทำกับเราอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สิ่งเหล่านี้จะนำไปใช้นอกเหนือจากวิธีการใช้ที่อธิบายไว้ในเอกสารนี้
3.3 สำหรับลูกค้าผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง
บริษัทอาจจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่าน หรือบุคคลใกล้ชิดท่าน อาทิเช่น บิดา มารดา ภรรยา บุตร เป็นต้น ได้ให้ไว้กับบริษัท หรือ บริษัทอาจใช้ข้อมูลที่บริษัทบันทึกไว้จากการที่บริษัทถามตอบท่าน เพื่อระบุถึงสถานภาพการเป็นผู้สูงอายุและหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงเพื่อบริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ ที่เหมาะสม
กิจกรรมที่ให้บริการต่างๆ อาทิ เช่น (ก) บริการที่ให้เป็นการส่วนตัว หรือ รูปแบบของการสื่อสาร และหรือบริการออนไลน์ เช่นบัญชีของฉัน – my account เป็นต้น และ (ข) การกำหนดเวลาที่จะให้บริษัทฯ สื่อสาร ติดต่อ กับท่านที่เหมาะสม เช่น จากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์หรือไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของท่าน รวมถึงช่องทางที่เหมาะสมที่จะใช้
ข้อมูลเหล่านี้ บริษัทอาจจะได้รับมาจากการสร้างโพรไฟล์เพื่อทำนายลักษณะบางอย่างเกี่ยวกับท่าน เช่น ฐานะทางเศรษฐกิจของท่าน ความสนใจ ความพึงพอใจโดยส่วนตัว หรือพฤติกรรมในการทำธุรกรรม กิจกรรมต่างๆดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อท่านแต่ประการใด
4. ใครสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือเราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับใคร
ใครสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือเราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับใคร
บริษัทตระหนักเสมอในข้อกฏหมายและข้อบังคับที่ใช้บังคับในการใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการประมวลผลอย่างเหมาะสม ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยหรือแบ่งปันกับบุคคลซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติการในฐานะบุคคลที่สามที่มีฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลที่มีฐานะเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลภายใต้คำสั่งของเรา ดังต่อไปนี้
- หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล บริษัทอื่นๆในกลุ่มอลิอันซ์ บริษัทรับประกันอื่น บริษัทรับประกันภัยร่วม บริษัทรับประกันภัยต่อ บริษัทที่เป็นคู่สัญญา ตัวแทนประกันชีวิต/วินาศภัย นายหน้าประกันชีวิต/วินาศภัย นายจ้างผู้ถือกรมธรรม์ประกันกลุ่ม สมาคมวิชาชีพ หรือสถาบันการเงิน
- ผู้ให้คำปรึกษาด้านเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญ ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ประเมินความเสียหาย ศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อม แพทย์ผู้ให้การรักษา โรงพยาบาล และบริษัทที่ให้บริการต่างๆ (ด้านสินไหม ด้านการสำรวจภัย การรับชำระเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศ ไปรษณีย์ การบริหารจัดการเอกสาร call center ด้านการวิจัย การจัดอันดับความน่าเชื่อถือ) หรือ
- บริษัทโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ส่งข้อมูลทางการตลาดแก่ท่าน ตามที่ท่านอนุญาตให้ส่งข้อมูลทางด้านการตลาดหรือข้อมูลข่าวสารใดๆไว้
เราจะไม่แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลที่สามที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่กล่าวถึงข้างต้นโดยมิได้รับอนุญาตจากท่าน แต่เราอาจเปิดเผยหนือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางเหตุการณ์ ดังนี้
- ในกรณีที่มีการพิจารณาหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท การขาย การร่วมทุน การมอบหมายงาน การถ่ายโอน หรือการจัดการอื่นๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนของธุรกิจของเรา สินทรัพย์หรือหุ้น รวมทั้งในกระบวนการล้มละลาย หรือการดำเนินการในลักษณะที่คล้ายกัน หรือ
- เพื่อให้เป็นไปตามข้อผูกพันทางกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องท่านหรือเราจากอาชญากรรมทางการเงิน หรือเป็นไปตามหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ร้องขอมาตามกฏหมายในกรณีที่ท่านได้ทำการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เราจัดให้กับท่าน
5. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการประมวลผลที่ไหน
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการประมวลผลที่ไหน
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจจะถูกประมวลผลทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักรไทยโดยบุคคลหรือนิติบุคคลที่ถูกระบุไว้ในข้อ 4 ข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดทางสัญญาที่เกี่ยวกับการรักษาความลับและความปลอดภัย ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ เราจะไม่ทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้ที่ไม่มีสิทธิในการประมวลผลข้อมูล
เมื่อใดก็ตามที่เราส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อทำการประมวลผลนอกราชอาณาจักรไทยหรือไปยังบริษัทในกลุ่มอลิอันซ์ เราจะปฏิบัติตาม “มาตรฐานการปกป้องและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของอลิอันซ์” (Allianz‘ BCR) ซึ่งกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีนี้
รายชื่อของบริษัทในกลุ่มอลิอันซ์ทีปฎิบัติตามข้อผูกพันดังกล่าวท่านสามารถดูได้โดยเข้าไปดูที่ https://www.allianz.com/en/privacy-statement.html#TabVerticalNegative2523488475
6. สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีอะไรบ้าง
สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีอะไรบ้าง
ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับ ท่านมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
- เข้าถึง หรือข้อรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
- ยกเลิกหรือเพิกถอนการให้ความยินยอมได้ในทุกโอกาส สำหรับการประมวลผลข้อมูลภายใต้ความยินยอมของท่าน
- ปรับปรุง หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้นอีกต่อไป
- ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านโต้แย้งถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้
- คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึง การประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบตรง
- ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตัวของท่านเอง หรือเพื่อผู้รับประกันภัยรายใหม่ของท่าน
- ยื่นข้อร้องเรียนโดยตรงกับเรา หรือยื่นต่อหน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่พบการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านอาจใช้สิทธิเหล่านี้โดยการตั้งค่าเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในระหว่างการสร้างบัญชีผู้ใช้ออนไลน์กับเรา และท่านสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้ได้ในภายหลังโดยเข้าสู่ระบบออนไลน์ หรือติดต่อเราตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 13. หากท่านต้องการความช่วยเหลือ
ในกรณีที่ท่านขอยกเลิกหรือเพิกถอนความยินยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไม่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรือระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามหน้าที่ตามสัญญาประกันภัย หรือเกิดข้อจำกัดในการทำธุรกรรมหรือให้บริการบางประเภท ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ท่านไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยหรือข้อตกลงอื่นใด หรือไม่ได้รับบริการบางประเภทจากบริษัท
บริษัทอาจจะปฏิเสธที่จะดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ในกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิของท่านตามที่กฎหมายกำหนด หรือบริษัทมีความชอบธรรมในการประมวผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิที่จะคิดค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินการตามคำร้องขอของท่านตามที่บริษัทเห็นสมควร
7. เราจะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานเท่าใด
เราจะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานเท่าใด
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปีภายหลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทสิ้นสุดลง หรือวันที่อนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาด หรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแต่กรณี อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวหากบริษัทเห็นว่าบริษัทยังมีความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลของท่านเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลข้างต้น หรือเพื่อความจำเป็นอื่นใดที่บริษัทเห็นสมควร เช่น การบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัท เป็นต้น
ในกรณีที่บริษัทปฏิเสธการรับประกันภัยตามคำขอเอาประกันภัยของท่าน หรือในกรณีที่ท่านได้ขอเพิกถอนใบคำขอเอาประกันภัยนั้น หรือในกรณีอื่นใดตามที่กำหนดไว้ตามข้อกฏหมายหรือกฎระเบียน บริษัทอาจยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหลังจากนั้นเพื่อประโยชน์ของบริษัท หรือเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฏหมายบังคับ อาทิ เช่น การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
เราจะไม่เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานเกินความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บรักษาเท่านั้น
8. มีการใช้ Cookies บนเว็บไซต์ของบริษัทหรือไม่
มีการใช้ Cookies บนเว็บไซต์ของบริษัทหรือไม่
บริษัท ได้ใช้เทคโนโลยีในการติดตาม เช่น คุกกี้ (Cookies) หรือ Tags เพื่อรวบรวมข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้เยี่ยมชมใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทอย่างไร
เทคโนโลยีในการติดตามช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เช่นทำให้เราสามารถตรวจสอบว่ามีการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านและของเราในอดีตหรือไม่ และใช้ในการระบุส่วนที่เป็นที่นิยมที่สุดของเว็บไซต์ของบริษัท
เมื่อท่านได้มีการบันทึกข้อมูลการตั้งค่าคุกกี้แี้ล้ว การตั้งค่าดังกล่าวจะนำไปใช้กับการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทในอนาคต อย่างไรก็ตาม อาจจะมีเหตุผลทางด้านเทคนิคที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ดังนั้น จึงไม่สามารถรับประกันได้ในกรณีเหล่านี้ เช่น การที่ท่านตั้งเบราว์เซอร์ของท่านใหม่ การลบคุกกี้ หรือการเข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัทจากเบราว์เซอร์หรือเครื่องมืออื่น การตั้งค่าคุกกี้ที่ท่านทำไว้อาจสูญหายได้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ในบางประเทศอาจขอให้ท่านยืนยันการตั้งค่าคุกกี้เมื่อท่านได้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทเป็นครั้งแรก ถ้าท่านอยู่ในประเทศที่ให้ถูกตั้งค่าคุกกี้ของท่านโดยอัตโนมัติ ท่านอาจจะได้รับการขอให้ตั้งค่าดังกล่าวอีกครั้งเมื่อมีการเข้าชมเว็บไซต์ในอนาคต
ในหลายๆ กรณี ท่านสามารถควบคุมเทคโนโลยีในการติดตามโดยการใช้เบราว์เซอร์ของท่านเอง กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านได้มีการตั้งค่าตามที่ท่านต้องการว่าให้มีการเตือนหรือยอมรับเทคโนโลยีการติดตาม เช่น คุกกี้ หรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ ท่านสามารถหาความสามารถเฉพาะของเบราว์เซอร์ของท่านและคำแนะนำในวิธีการใช้งานดังกล่าวได้จากคู่มือหรือไฟล์ช่วยเหลือของเบราว์เซอร์ของท่าน
การปฏิเสธ การจำกัดการใช้งาน หรือการปิดใช้งานเทคโนโลยีการติดตาม อาจทำให้ประสิทธิภาพของการให้บริการของเว็บไซต์ของบริษัทลดลง หรือบางส่วนของเว็บไซต์ของบริษัทอาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
9. การปลั๊กอินของโซเชียลมีเดียบนเว็บไซต์ของบริษัทถูกใช้งานอย่างไร
การปลั๊กอินของโซเชียลมีเดียบนเว็บไซต์ของบริษัทถูกใช้งานอย่างไร
เว็บไซต์ของบริษัทใช้ปลั๊กอินของโซเชียลมีเดียดังต่อไปนี้ ("ปลั๊กอิน"):
ปุ่มแชร์ไปยังเฟซบุ๊ก (Facebook)
ดำเนินการโดย: Facebook Inc. 1601 S. California Ave., Palo Alto, CA 94304, USA
คำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคล: https://facebook.com/about/privacy
ปุ่ม ทวีต (Tweet)
ดำเนินการโดย: Twitter Inc. 795 Folsom St., Suite 600, San Francisco, CA 94107, USA
คำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคล: https://twitter.com/privacy
ปุ่มแชร์ไปยังอินสตาแกรม
ดำเนินการโดย: Instagram Co. 1 Hacker Way, Menlo Park, California, United States
คำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคล: https://help.instagram.com/519522125107875
ปุ่มยูทูบ (YouTube)
ดำเนินการโดย: YouTube 901 Cherry Ave, San Bruno, CA 94066, United States
คำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคล: https://www.youtube.com/about/policies/
ปุ่มแชร์ไปยัง ไลน์ (Line)
ดำเนินการโดย: Line Corporation Shinjuku Office/JR SHINJUKU MIRAINA TOWER 23rd FL., 4-1-6 Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo,160-0022
คำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคล: http://terms.line.me/line_rules/?lang=en
กูเกิล (Google)
คำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคล: https://policies.google.com/privacy
ปลั๊กอินทั้งหมดถูกระบุด้วยชื่อแบรนด์ของ ผู้ปฎิบัติการที่เกี่ยวข้องได้แก่ เฟซบุ๊ก (Facebook), กูเกิล (Google), ทวิตเตอร์ (Twitter), อินสตาแกรม (Instagram), ไลน์ (Line), ยูทูบ(YouTube) ("ผู้ปฏิบัติการ") เพื่อเพิ่มระดับการปกป้องข้อมูลและให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับ เราได้ดำเนินการเพิ่มเติมโปรแกรมโดยใช้วิธี ที่เรียกว่า 2-click solution ขั้นตอนนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท จะไม่มีการเชื่อมต่อโดยตรงของเบราว์เซอร์ของท่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้ปฏิบัติการที่ถูกสร้างขึ้น เว้นเฉพาะกรณีที่ท่านเปิดใช้งานปลั๊กอินโดยคลิกไปที่ปลั๊กอินดังกล่าว โดยเป็นการอนุญาตให้ท่านยินยอมในการโอนข้อมูล ซึ่งเบราว์เซอร์ของท่านจะสร้างการเชื่อมต่อโดยตรงไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง จากนั้นเนื้อหาของปลั๊กอินจะถูกส่งจากผู้ปฏิบัติการ โดยตรงไปยังเบราว์เซอร์ของท่านและรวมเข้ากับเว็บไซต์
การที่ยอมรับ ปลั๊กอิน ผู้ปฏิบัติการจะได้รับข้อมูลที่เบราว์เซอร์ของท่าน เข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัท หากท่านลงชื่อเข้าใช้ บัญชีของท่าน เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ผู้ปฏิบัติการสามารถเชื่อมต่อการเยี่ยมชมของท่านกับบัญชีของท่านโดยตรง หากท่านโต้ตอบกับปลั๊กอินเช่น การคลิกที่ปุ่มเฟซบุ๊ก ปุ่ม +1 และปุ่มทวีต ปุ่ม"แชร์"(share) ข้อมูลจะถูกโอนโดยตรงจากเบราว์เซอร์ของท่านไปยังผู้ปฏิบัติการ และถูกบันทึกโดยผู้ปฏิบัติการ นอกจากนี้ข้อมูลจะถูกเผยแพร่บนโซเซียลมีเดียที่เกี่ยวข้องหรือบนบัญชีทวิตเตอร์ของท่านและจะปรากฏแก่ผู้ติดต่อของท่าน หากท่านไม่ต้องการให้มีการโอนข้อมูลนี้ไปยังผู้ปฏิบัติการ ท่านต้องออกจากระบบบัญชีที่เกี่ยวข้องของท่านก่อนที่ท่านจะคลิกที่ปลั๊กอิน และเปิดใช้งานอีกครั้ง
10. มาตรการความปลอดภัยอะไรที่เราได้ดำเนินการเพื่อปกป้องข้อมูลของท่านที่รวบรวมผ่าน เว็บไซต์ของบริษัท
มาตรการความปลอดภัยอะไรที่เราได้ดำเนินการเพื่อปกป้องข้อมูลของท่านที่รวบรวมผ่าน เว็บไซต์ของบริษัท
เราได้ใช้มาตรการด้านเทคนิคและความปลอดภัยขององค์กรที่เหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกรวบรวมโดยผ่านเว็บไซต์ของบริษัท จากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต การใช้ผิดประเภท สูญหาย หรือถูกทำลายรับอนุญาต การใช้ผิดประเภท สูญหาย หรือถูกทำลาย
11. เราจะจัดการกับข้อความอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปและกลับจากบริษัทอย่างไร
เราจะจัดการกับข้อความอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปและกลับจากบริษัทอย่างไร
ข้อความอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่ส่งไป และกลับจากบริษัทได้รับการคุ้มครองโดย มาตรการทางเทคนิค และความปลอดภัยขององค์กรที่เหมาะสม และอาจเข้าใช้ได้เฉพาะในกรณีที่มีเหตุผล ซึ่งต้องเป็นไปตามที่กฎหมายและข้อบังคับได้กำหนด (เช่นคำสั่งศาล ขบวนกระบวนการสืบสวนสอบสวนทางอาญา การกระทำความผิดทางกฎหมาย) โดยบุคคลที่ถูกระบุอยู่ในฝ่ายที่กำหนด (เช่น กฎหมาย, การปฏิบัติตามกฏระเบียบ, ความเสี่ยง) ทุกขั้นตอนของกระบวนการรวมถึงเกณฑ์การค้นหาที่ใช้ จะถูกบันทึกไว้ เป็นหลักฐานการตรวจสอบ อีเมลทั้งหมดจะถูกกำจัด หลังจากระยะเวลาการเก็บรักษาได้สิ้นสุดลง
12. อะไรที่ท่านควรพิจารณาเมื่อส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต
อะไรที่ท่านควรพิจารณาเมื่อส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตโดยทั่วไปจะไม่ถือว่าเป็นสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น ส่งไปยัง หรือจากเว็บไซต์ของบริษัท หรือผ่านข้อความอิเล็กทรอนิกส์ อาจถูกเข้าถึงได้โดยบุคคลที่สามที่ไม่ได้รับอนุญาต อาจนำไปสู่การเปิดเผย การเปลี่ยนแปลงเนื้อหา หรือความผิดพลาดทางเทคนิค ถึงแม้ว่าทั้งผู้ส่งและผู้รับจะอยู่ในประเทศเดียวกันข้อมูลที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ตอาจถูกส่งข้ามพรมแดนระหว่างประเทศและส่งต่อไปยังประเทศที่มีระดับการป้องกันข้อมูลต่ำกว่าในประเทศที่ท่านอาศัยอยู่
บริษัท ไม่สามารถรับผิดชอบ หรือรับผิดสำหรับความปลอดภัยของข้อมูลของท่านขณะที่ถูกส่งในอินเทอร์เน็ตถึงบริษัท เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่าน ท่านอาจเลือกวิธีการสื่อสารอื่นกับบริษัทตามที่ท่านเห็นว่าเหมาะสม
13. ท่านสามารถติดต่อเราผ่านช่องทางใด?
ท่านสามารถติดต่อเราผ่านช่องทางใด?
หากท่านมีคำถามเกี่ยวกับคำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อเราได้ ผ่านทางช่องทางโทรศัพท์ อีเมล หรือ ไปรษณีย์ ดังต่อไปนี้
บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต
898 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ชั้น 1 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 ในวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30 – 17.00 น. หรือ
ศูนย์ดูแลลูกค้าอลิอันซ์ อยุธยา โทร 1373 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ อีเมล: customercare@azay.co.th
บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย
898 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ชั้น 1 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 ในวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30 – 17.00 น. หรือ
ศูนย์ดูแลลูกค้าอลิอันซ์ อยุธยา โทร 1292 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ อีเมล: contact_aagi@azay.co.th
14. เรามีความถี่ในการปรับปรุงคำชี้แจงข้อมูลส่วนบุคคลแค่ไหน?
เรามีความถี่ในการปรับปรุงคำชี้แจงข้อมูลส่วนบุคคลแค่ไหน?
เราทำการทบทวนคำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นประจำ เราแน่ใจว่าประกาศฉบับที่เป็นปัจจุบันจะอยู่บนเว็บไซต์ของเราที่ http://www.azay.co.th สำหรับ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต หรือ http://gi.azay.co.th/ สำหรับ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย
บริษัทอาจทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เราจะประกาศการเปลี่ยนแปลงแก้ไขในเว็บไซต์ของบริษัท หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อท่านอย่างมีนัยสำคัญ เราอาจจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนั้นผ่านช่องทางการติดต่อที่ท่านกำหนดไว้ ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะบังคับใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยภายหลังจากที่ประกาศในเว็บไซต์ของเรา
คำชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้จัดทำขึ้นเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในกรณีที่ข้อความระหว่าง 2 ภาษานั้นขัดหรือแย้งกัน ให้ใช้ภาษาไทยเป็นสำคัญ
คำชี้แจงส่วนบุคคลฉบับนี้ ประกาศเมื่อ 16 มิถุนายน 2563